BIM model ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ

ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ตัวอย่างเช่น การนำ BIM model มาใช้ในกระบวนการออกแบบที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ เช่น การสร้างอาคารที่มีรูปทรงซับซ้อนและมีความเป็นเอกลักษณ์สูง ซึ่งในอดีตอาจเป็นเรื่องยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ในการออกแบบและก่อสร้าง ด้วยความสามารถในการจำลองแบบสามมิติและการวิเคราะห์ที่แม่นยำ BIM model ช่วยให้สถาปนิกสามารถทดลองแนวคิดใหม่ๆ และพัฒนาโครงสร้างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อย่างมั่นใจ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่น่าสนใจคือ

การใช้ BIM model ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

เพื่อสร้างกระบวนการออกแบบและก่อสร้างที่สามารถเรียนรู้และปรับปรุงได้ด้วยตนเอง AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจาก BIM model เพื่อค้นหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโครงการ เช่น การเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุด การคำนวณเส้นทางการก่อสร้างที่เร็วที่สุด หรือการพัฒนาวิธีการลดของเสียในกระบวนการก่อสร้าง ระบบนี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้านของโครงการ นอกจากนั้น BIM model ยังสามารถปรับใช้ในงานด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์และทรัพยากรในระยะยาว

โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการบำรุงรักษาและการจัดการทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงพยาบาล สนามบิน หรือโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ข้อมูลจาก BIM model ช่วยให้ผู้บริหารทรัพยากรสามารถวางแผนการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารงาน โดยการทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ในบริบทของความร่วมมือระดับนานาชาติ BIM model มีบทบาทสำคัญในการสร้างมาตรฐานและกระบวนการทำงานที่เป็นสากล

การที่ข้อมูลทั้งหมดในโครงการสามารถบูรณาการ

แบ่งปันผ่านระบบเดียว ช่วยลดอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับความแตกต่างทางภาษา วัฒนธรรม หรือกระบวนการทำงานระหว่างประเทศ สิ่งนี้ทำให้โครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การพัฒนาของ BIM model ยังเปิดโอกาสให้เกิดการสร้าง “ระบบนิเวศดิจิทัล” (Digital Ecosystem) ที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้พัฒนาโครงการ นักออกแบบ วิศวกร ผู้รับเหมา ผู้จัดจำหน่ายวัสดุ ไปจนถึงผู้ใช้งานอาคารในอนาคต

ระบบนี้ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันที่มีความโปร่งใสและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การเชื่อมโยงนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ที่สามารถนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคต BIM model ยังมีความสำคัญในเชิงสังคม เพราะมันไม่ได้เพียงแต่ช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบสนองต่อความต้องการทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี แต่ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียว การออกแบบอาคารที่ประหยัดพลังงาน และการวางผังเมืองที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คนในสังคม

BIM model